ค้นหาภายในเวปของเรา

Sunday, December 13, 2015

มาเก๊า-ฮ่องกง วันที่2 วัดอาม่า, ขึ้นเรือข้ามฟากท่าเรือไทปาเฟอรี่-ท่าเรือเฟอรี่ฮ่องกง, จิมซาจุ่ย, Avenue of the Stars, ตลาดมงก๊ก


                 สวัสดีค่ะ เที่ยวไปกับนังตัวดีตอน...ไปมาเก๊าฮ่องกงกันเถอะ..วันที่ 2มาแล้วค่า
วันนี้เราวางแผนจะนั่งเรือเฟอรี่ข้ามไปเที่ยวฮ่องกงกันค่ะ   แต่...กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้นเราจึงไปหาอาหารมื้อเช้าทานที่มาเก๊ากันก่อน  โดยทานโจ๊กที่อยู่ใกล้ๆโรงแรมที่เราพัก ร้านอยู่ในตรอกเล็กๆ ใกล้ๆกับป้ายรถเมล์ค่ะ คนขายพูดไทยได้เล็กน้อย  โจ๊กอร่อยค่ะ แต่ร้อนมากๆ หมูสับชิ้นโตๆ

                 หลังจากอิ่มแล้ว แพลนเที่ยวมาเก๊าของเราในวันนี้จะเริ่มจากการไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมาเก๊ากันค่ะ วัดอาม่านั่นเอง การเดินทาง เรานั่งรถเมล์สาย 10A จากป้ายรถเมล์เลยโรงแรมโอเล่ที่เราพักไปป้ายนึงค่ะ เพื่อไปวัดอาม่า (A-Ma Temple) ค่าโดยสารประมาณ 5 MOP ค่ะ  วัดอาม่าจะอยู่เกือบสุดสายเลย ไปไม่ยากเลยค่ะ หรือจะเช็คเส้นทางที่ป้ายรถเมล์ก่อนก็ได้ ซึ่งสะดวกมากๆค่ะ

วัดอาม่า, มาเก๊า
วัดอาม่า, มาเก๊า

วัดอาม่า, มาเก๊า
วัดอาม่า, มาเก๊า

                 วัดอาม่า (A-Ma Temple) และวัดนี้แหละ เป็นที่มาของชื่อมาเก๊าในปัจจุบัน จึงถือกันว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ และศักดิ์สิทธิ์วัดหนึ่งของมาเก๊านั้นเอง  โดยมีเรื่องเล่ากันว่า อาม่าที่กราบไหว้กันนี้ เป็นหญิงสาวชาวฟูเจียนชื่อ หลิงม่า วันหนึ่งนึกอยากจะข้ามฝั่งมาที่คาบสมุทรเอ้าเหมิน ซึ่งหมายถึงดอกลิลลี่ขาว เธอจึงขอโดยสารมากับเรือลำเล็ก ๆ ลำหนึ่งของชายชราชาวประมง เมื่อเรือที่เธอนั่งมาแล่นมาถึงกลางทะเลก็ได้เกิดพายุใหญ่  ทำให้เรือหลายลำล่มลง  แต่ว่า เรือของที่หลิงม่าโดยสารมานั้นสามารถแล่นมาถึงฝั่งได้อย่างปาฏิหาริย์  และเมื่อทันทีที่หลิงม่าก้าวเท้าเหยียบฝั่ง เธอก็ลอยตัวขึ้นและหายลับไปในฟากฟ้า  ชาวประมงทั้งหลายเห็นดังนั้น เลยเชื่อว่า หลิงม่า คือเทพธิดาแห่งท้องทะเล  จึงพากันเรียกดินแดนตรงนี้ว่า A-Ma Goa ซึ่งหมายถึง อ่าวของอาม่า นาน ๆ เข้าเสียงก็เปลี่ยนไป เป็น มาเก๊า นั่นเองค่ะ

                  บริเวณวัดอาม่า ภายในมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่า เป็นจุดที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊าเป็นครั้งแรก บริเวณหน้าวัดมีรูปปั้นสิงโตหินอยู่ 2 ตัว เชื่อกันว่าหากใครได้หมุนลูกแก้ว ที่อยู่ในปากสิงโตไปทางขวา 3 ครั้ง พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน แล้วจะสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา (แต่ตอนนี้ลูกแก้วหายไปแล้ว T.T) นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกมากมาย เช่น ชาวมาเก๊าจะใช้เหรียญลูบหลังเต่าแล้วทำท่าเก็บเงินเข้ากระเป๋าเพราะเชื่อว่า จะนำโชคลาภมาให้ และส่วนใหญ่ชาวประมงก่อนออกเดินเรือจะต่องมาสักการะเจ้าแม่อาม่าเพื่อขอพร ให้เดินทางปลอดภัย นอกจากนี้ยังประกอบด้วยซุ้มประตูแห่งการรำลึก หอสวดมนต์ หอแห่งความเมตตา หอเจ้าแม่กวนอิม และศาลาเซิ้งเจ้าชานหลิน ที่ล้วนอุทิศให้แด่เทพศักดิ์สิทธิ์องค์ต่างๆ
 
                 หลังจากได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว เราก็ได้เวลาไปต่อที่ Taipa Ferry Terminal หรือท่าเรือเฟอรี่โดยสารเพื่อข้ามฝั่งไปยังเกาะฮ่องกง  จากวัดอาม่าเราเลือกนั่งรถเมล์จากป้ายรถเมล์ตรงข้ามวัดอาม่าเลย เพราะคิดว่าจากวัดอาม่าไปท่าเรือเฟอรี่เลย น่าจะสะดวกกว่าไปต่อรถ Shuttle Bus ตามโรงแรม เราจึงไปหาว่าสายไหนที่ผ่านจุดนี้และไปท่าเรือได้ ก็พบว่า สาย 10A อีกนั้นเอง ^^

               นั่งรถประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็ถึง Taipa Ferry Terminal แล้วค่ะ  ที่ท่าเรือนี้ เรือให้บริการข้ามฝากไปยังเกาะฮ่องกงจะมีอยู่  2 เจ้า ค่ะ  ได้แก่ Cotai กับ Turbo Jet   อัตราค่าโดยสารราคาปกติที่ไม่มีโปรโมชั่นจะอยู่ที่ 153 HKD  หลังจากที่ซื้อตั๋วเสร็จ ก็เข้าไปตรวจสัมภาระ และผ่าน ตม. เพื่อเดินทางไปสู่ฮ่องกงค่ะ

               อ้อ... สำหรับผู้หญิงจะโดนตม.ฮ่องกงเรียกไปสัมภาษณ์ด้วยนะคะ (เสียใจเล็กน้อย หน้าตาเราออกจะจี๊น จีน นะเนี่ย แฮ่+)  เข้าไปในห้องเจอผู้หญิงอีก 5-6 คน นั่งในนั้น น่าจะโดนเหมือนกันค่ะ เขาก็จะถามว่ามาฮ่องกงครั้งแรกหรอ มาทำอะไร มากับใคร แล้วพักที่ไหน มากี่วัน แล้วมีตั๋วเครื่องบินกลับไหม  ซึ่งเราก็นำไปแสดงให้เขาดูว่าเรามาเที่ยวนะ มีที่พักแล้ว และมีตั๋วกลับแน่นอน ก็ผ่านค่ะ ไม่ยากอะไรค่ะ


Taipa Ferry Terminal, Macau
Taipa Ferry Terminal, Macau

Taipa Ferry Terminal, Macau
Taipa Ferry Terminal, Macau

Taipa Ferry Terminal, Macau
Taipa Ferry Terminal, Macau

Taipa Ferry Terminal, Macau
Taipa Ferry Terminal, Macau
   และ เมื่อถึง Hong Kong-China Ferry Terminal เราก็ไปหามื้อเที่ยงกันที่ 7-11 ของ ฮ่องกง อาหารใน 7-11 ของ ฮ่องกง ถ้าเป็นแบรนด์ ของ 7-11 จะผลิตจาก CP ที่ไทยเอง (แต่รสชาติไม่เหมือนที่ขายในประเทศไทยนะ)
   จาก Hong Kong-China Ferry Terminal เดินออกมาด้านนอก และ เดินไปด้านขวาฝั่งที่เป็นร้านนาฬิกา เดินเลียบห้าง จนถึงประตูหน้าห้าง และ ซ้ายหัน ข้ามถนน ไปจนถึง สถานที MRT ของ Tsim ShaTsui
   ส่วนใหญ่ ที่พักใน Hong Kong จะเป็นแนว Guest House ห้องเล็กๆ ตามแมนชั่นต่างๆ หรือ ถ้าอยากได้ห้องใหญ่ๆ ต้องไปพักโรงแรมตามชานเมืองจริงๆ ซึ่งราคาค่อนข้างสูงพอสมควร และใน Mention นั้น ก็จะคล้ายๆ แฟลตบ้านเราค่ะ เวลาขึ้นลงลิฟท์ ส่วนใหญ่ก็จะต้องเข้าแถวเพื่อขึ้นลิฟท์ด้วย สำหรับที่พัก ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร ขอข้ามไปนะค่ะ

   หลังจาก check in เข้า ที่พักแล้ว ซึ่งแรกที่เราทำเลย คือ ลงไปที่ สถานี MTR ของ Tsim SahTsui, Hong Kong เพื่อ ซื้อบัตร Octopus เนื่องจาก การเดินทางของเราใน ฮ่องกง นั้นจะเน้น MTR เป็นหลัก และบัตร Octopus เนี้ย เป็นบัตรเติมเงิน แต่ สามารถใช้ได้ทุกที่ ใน ฮ่องกง เลยทีเดียว ไม่ใช่ใช้ได้แค่ MTR เท่านั้น สามารถใช้ซื้ออาหารตามร้านอาหารทั่วๆไป หรือ 7-11 ได้ด้วยค่ะ สะดวกมากๆ เมืองไทยน่าจะเอามาใช้ด้วยนะ พกบัตร Octopus กับ พาสปอร์ต ก็ไปได้ทุกที่ของ ฮ่องกงแล้วค่ะ (ไม่ต้องพก 10-20 บัตรเหมือนเมืองไทย) แล้ว ก่อนบินกลับเมืองไทย สามารถเอาบัตร Octopus มาแลกเงินคืนได้ โดยมีหักเงินนิดหน่อย ได้ที่สถานี MTR ทุกสถานีค่ะ
   ตามสถานี MTR ของ ฮ่องกง บางทีจะเห็นเด็กประมาณชั้นประถม ใส่บัตร Octopus คล้องคอไว้ แล้วขึ้นลง MTR ได้ด้วยตนเอง เราจะเห็นบรรยากาศอย่างนี้บ่อยๆ ซึ่งไม่ใช้เรื่องแปลกของฮ่องกงนะค่ะ
แผนที่ MTR ฮ่องกง
แผนที่ MTR ฮ่องกง
   หลังจากได้บัตร Octopus แล้ว เราก็เดินออกทางออกด้านใต้สุดของสถานี(ทางออก J2) และเดินข้ามถนน ก็จะพบกับ Avenue of Stars ซึ่ง Avenue of Stars ของฮ่องกง นั้น เป็นเหมือน สวนสาธารณะของฮ่องกง แต่มีทีเด็ด ตรงที่ จะมี ลายเซ็นของดาราฮ่องกง พร้อมประทับฝ่ามือ ไว้ตามทางเดิน คล้ายๆที่ LA, USA ค่ะ เมื่อเรามาถึง ก็ตามหาลายเซ็นของ โจวชิงฉือ, บรูซ ลี และ โจว เหวินฟ่ะ ทันทีค่ะ ระหว่างค้นหาเราหันไปเจอร้านขาย ปลาหมึกปิ้งกลิ่นหอมหวนมาก เลยทดลองซื้อมาทานเล็กน้อย รสชาติดีมากค่ะ คนละแนวกับปลาหมึกปิ้งของไทย (แต่แพงไปนิดนะค่ะ)
The Avenue of stars, จิมซาจุ่ย, ฮ่องกง
The Avenue of stars, Tsim Sha Tsui(จิมซาจุ่ย), ฮ่องกง

The Avenue of stars, Tsim Sha Tsui(จิมซาจุ่ย), ฮ่องกง
บรูซ ลี, The Avenue of stars, จิมซาจุ่ย, ฮ่องกง
The Avenue of stars, Tsim Sha Tsui, ฮ่องกง
The Avenue of stars, Tsim Sha Tsui(จิมซาจุ่ย), ฮ่องกง

 หลังจากเดินเล่นที่ Avenue of Star จนทั่ว หาลายเซ็นได้ครบแล้ว เราก็มานั่งรอดู The Symphony of Light ซึ่งจะฉายตอน 2 ทุ่มค่ะ
 หลังจากจบ The Symphony of Light, เราก็นั่ง MTR ไปต่อที่ Mong Kok(มงก๊ก), ฮ่องกง ไป Lady Market ค่ะ ที่นี้ไม่มีอะไรมาก ช็อปกระจายค่ะ อิอิ ในที่นี้จะมีร้านอาหารอร่อยๆหลายร้านเหมือนกันค่ะ เราแบกท้องมาทานที่นี้ก็ได้ค่ะ

Lady Market, Hong Kong
บรรยากาศตลาด Lady Market, Hong Kong

  หลังจากช็อปปิ้งจนหมดแรง เราก็กลับไปโรงแรม เพื่อ พักผ่อนเอาแรง ให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในวันพรุ่งนี้ค่ะ

เรื่องราวที่ท่องเที่ยวในมาเก๊า-ฮ่องกง

มาเก๊า-ฮ่องกง วันที่1

มาเก๊า-ฮ่องกง วันที่3

No comments:

Post a Comment